นม300cc ดีไหม หากต้องการเสริมหน้าอก ควรเสริมเท่าไหร่ดี

“อยากทำหน้าอก ขยายหน้าอก ให้สวย เสริมนม 300cc ดีไหม” ลองอ่านบทความนี้ก่อน วันนี้ศัลยแพทย์ประจำคลินิกของเราจะมาอธิบายว่า 300 cc เหมาะกับทุกคนจริงหรือ จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใส่ซิลิโคนไซส์ไหนบทความนี้มีคำตอบ เสริมหน้าอก 300 cc ดีไหม เล็กหรือใหญ่เกินไป แก้ปัญหาใส่เสื้อชั้นในไม่เต็มคัพได้ไหม แพทย์ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับสัดส่วน สรีระ ฐานหน้าอก และความต้องการของคนไข้ คุณต้องการผลลัพธ์หลังการเสริมหน้าอกอย่างไร

บางคนเนื้อหน้าอกน้อยมาก อยากเน้นธรรมชาติแต่อยากเสริมหน้าอก 300 cc. อันนี้อาจจะใหญ่ไปหน่อย (สำหรับบางเคส) เคยเจอคนไข้หลายคนมาถามหมอว่า “เสริมหน้าอก 300 cc ได้ไหม จะเล็กไปไหม เห็นเพื่อนเสริมหน้าอกมาแล้วสวยดี อยากได้แบบนี้บ้าง” ต้องตอบตามจริงว่า คนไข้สามารถเสริมหน้าอกได้ 300 ซีซี หรือกี่ซีซีก็ได้ แต่หากต้องการความเป็นธรรมชาติหลังทำจริง ๆ ควรเลือกขนาดของซิลิโคนหน้าอกที่เหมาะกับตัวเองจะดีกว่า

ซึ่งความธรรมชาติของหน้าอก ที่หลาย ๆ คนต้องการหลังจากที่เสริมหน้าอกไปแล้ว หมอต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยเลยครับ  เนื่องจากคนไข้แต่ละคนจะมีขนาดหน้าอกไม่เท่ากัน อีกทั้งยังต้องประเมินฐานหน้าอกของคนไข้ก่อน ว่ากว้างเท่าไหร่ หน้าอกห่างไหม แล้วนำไปคำนวณว่าขนาดของซิลิโคนนั้น ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม และออกมาสวยธรรมชาติ

การเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกให้เหมาะกับสรีระหน้าอกจะช่วยให้หน้าอกดูสวยเป็นธรรมชาติ และเข้ากับสรีระโดยรวม บางเคสอาจเหมาะกับการเสริมหน้าอกขนาด 300 ซีซี และบางเคสอาจเหมาะกับการเสริมหน้าอกขนาด 200 ซีซี หน้าอกของเรามีรูปร่างแบบไหน

• หน้าอกเชอร์รี่ : ฐานหน้าอกไม่ชัดเจน เนื่องจากมีลักษณะเล็กและค่อนข้างแบนราบ พุ่งน้อย
• หน้าอกเลมอน : ฐานอกกว้าง มีความพุ่งน้องหรือหน้าอกห่างนั่นเอง
• หน้าอกสับปะรด : ฐานอกเล็ก มีความพุ่งมาก เนื้อเนินอกจะขยายออกด้านข้าง
• หน้าอกแอปเปิล : หน้าอกคล้ายรูปครึ่งวงกลม เนินหน้าอกพุ่งชันมาก
• หน้าอกสตรอว์เบอร์รี : หน้าอกจะมีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย ไม่ค่อยมีเนื้อหน้าอกและกล้ามเนื้อ
• หน้าอกลูกแพร : เนินอกไม่มีกล้ามเนื้อ เนื้อหน้าอกมักจะอยู่ที่ฐานนม ทำให้มีเนื้อหน้าอกที่ดูหย่อนคล้อยมาก

ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างพร้อมกันก็ได้ ประกอบด้วย

• เสริมด้วยเต้านมเทียม (Breast Implant Augmentation) 

ปัจจุบันซิลิโคนเสริมหน้าอกมีคุณภาพและความทนทานค่อนข้างดี ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหลังจาก 5 ปีหรือ 10 ปี ในกรณีของเต้านมเทียมแบบผิวหยาบหรือเป็นทราย (Textured Implant) ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศไทยค่อนข้างมาก แสดงให้เห็นว่าสามารถลดการเกิดพังผืดและมีพื้นผิวยึดเกาะที่ดี จึงเหมาะกับซิลิโคนเสริมหน้าอกบางประเภท เช่น ทรงหยดน้ำ ที่ต้องการการยึดเกาะที่ดีไม่เกิดการพลิกหรือหมุนตัว แต่ละยี่ห้อจะมีความละเอียดของผิวทรายต่างกัน ตั้งแต่หยาบหรือหยาบมาก (Macrotexture) ไปจนถึงแบบละเอียด (Micro – Nano Texture) ควรเลือกซิลิโคนผิวขรุขระให้เหมาะสมตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ และควรตรวจเต้านมเป็นประจำ

• การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Augmentation)

เป็นวิธีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากใช้เนื้อเยื่อของตัวเองไม่ใช้สิ่งแปลกปลอมมีความเป็นธรรมชาติสูง แต่มีข้อจำกัด เช่น ต้องทำการผ่าตัดเพิ่มเติม คือ การดูดไขมัน ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะและการคงอยู่ของไขมันที่ฉีดอาจแตกต่างกันในแต่ละคน

เต้านมเทียมมี 2 รูปร่าง คือ ทรงกลมและทรงหยดน้ำ เหมาะกับสาว ๆ ที่มีปัญหาต่าง ๆ ใครอยากเสริมหน้าอกให้ใหญ่ต้องมีรูปร่างกลมส่วนใครที่ต้องการเพิ่มขนาดเล็กน้อย เน้นความเป็นธรรมชาติต้องใช้ซิลิโคนเสริมนม300cc ทรงหยดน้ำได้เลย

ซิลิโคนทรงกลม

ซิลิโคนหน้าอกทรงกลม (Round Breast Implant) ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มหน้าอกให้อึ๋ม นูน กลม ไม่มีปัญหาซิลิโคนเปลี่ยนทรง สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการอัพไซส์ใหญ่ เหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ มีฐานหน้าอกที่กว้าง คนที่ต้องการอัพไซส์ใหญ่หลายไซส์ คนที่หน้าอกหย่อนคล้อย หรือคุณแม่หลังคลอด ที่ให้นมน้อง แล้วเนินอกหายเป็นต้น แต่ข้อเสียของซิลิโคนหน้าอกทรงกลมคือ ถ้าทำนมไซส์ใหญ่มาก เกินตัว อาจจะเห็นขอบ และดูไม่เป็นธรรมชาติได้

ซิลิโคนทรงหยดน้ำ

ซิลิโคนหน้าอกทรงหยดน้ำ (Teardrop Breast Implant) ด้านบนแบนและด้านล่างป่องคล้ายซิลิโคนทรงหยดน้ำ นมหยดน้ำ เหมาะกับคนที่ต้องการหน้าอกธรรมชาติ ขนาดไม่ใหญ่ และมีปริมาณหน้าอกน้อย หลังทำหน้าอกมีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย

คนส่วนใหญ่จะรู้จักเต้านมเทียมเฉพาะผิวที่เรียบและผิวทรายเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีซิลิโคนเสริมหน้าอกเนื้อกำมะหยี่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก

• ซิลิโคนผิวเรียบจะมีโอกาสเกิดพังผืดมากกว่าผิวประเภทอื่น ๆ และต้องนวดเต้านมบ่อย ๆ เพื่อให้เต้านมอ่อนนุ่ม และซิลิโคนธรรมชาติมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยน้อยกว่าซิลิโคนทราย
• ซิลิโคนผิวทรายนุ่มกว่าผิวเรียบเพราะลดการเกิดพังผืดได้ไม่ต้องนวดหน้าอกบ่อย นอกจากนี้ยังเคลื่อนที่ได้น้อยกว่าซิลิโคนแบบเรียบ
• ซิลิโคนผิวกำมะหยี่จะเป็นกึ่งเรียบกึ่งทราย เป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Motiva ที่นุ่มและเป็นธรรมชาติมาก โอกาสเกิดพังผืดน้อยลง แถมยังไม่ต้องนวดหน้าอกบ่อยอีกด้วย

เสริมนมเหนือกล้ามเนื้อ

เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ ผลข้างเคียงน้อย บาดเจ็บน้อย ผ่าตัดง่าย พักฟื้นสั้น แต่มีโอกาสเกิดพังผืดได้ หรือปัญหานมแฝดมากขึ้นและเบี้ยวง่ายขึ้น และสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อยหรือใหญ่เป็นพิเศษอาจทำให้ขอบของซิลิโคนโผล่ออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติได้ (ซิลิโคนลอย) และที่สำคัญไม่เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ เพราะอาจมีสารปนเปื้อนจากซิลิโคนสัมผัสต่อมผลิตน้ำนมได้

เสริมนมใต้กล้ามเนื้อ

เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกเล็ก ซิลิโคนจะคอยดันหน้าอกให้ดูเด้งเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย หน้าอกจะดูกระชับขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหา ผิวเป็นคลื่น มีโอกาสที่หน้าอกจะผิดรูป พังผืด และหน้าอกจะแข็งน้อยลง อย่างไรก็ตามการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อจะรู้สึกเจ็บกว่า ใช้เวลานานกว่า และใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า การปลูกถ่ายกล้ามเนื้อต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น

เสริมหน้าอกเทคนิค Dual Plane

เป็นเทคนิคที่รวมข้อดีของการเสริมหน้าอกทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน ซึ่งซิลิโคนส่วนบนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อ ส่วนซิลิโคนล่างจะอยู่เหนือกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่เห็นขอบซิลิโคนบริเวณหน้าอก ส่วนล่างเรียวโค้งมนทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ปัจจุบันเทคนิคนี้เป็นที่นิยมมาก

สำหรับการเลือกซิลิโคนเพื่อทำนม300cc จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยที่ศัลยแพทย์จะนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์และแนะนำชนิดและขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม ดังนี้ ต้องดูขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว ดูลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิมว่ามีความหย่อนคล้อยหรือไม่ ความหนาของผิวหนัง และดูไขมันที่สะสมบริเวณหน้าอก

อ่านเพิ่มเติม :

• ศัลยกรรมเสริมหน้าอก